แนวคิดของเรา

สิงห์ เอสเตท ตระหนักถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่นำมาซึ่งปัญหาภาวะโลกร้อน ภัยภิบัติ ส่งผลกระทบด้านสังคม ชุมชน รวมถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจในอนาคต จึงได้มีการเก็บข้อมูลคาร์บอนองค์กรในระยะเวลาที่ผ่านมา และตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำให้ได้ภายในปี 2030 นอกจากนั้นยังมีแผนเพิ่มพื้นที่ดูดซับคาร์บอน หรือการปลูกป่าให้ได้มากที่สุด กว่า 1 ล้าน ตารางเมตรภายใน 10 ปี และยังเริ่มแคมเปญการสื่อสารเพื่อสร้างความตระหนักรู้ ในเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนให้กับคนเมืองและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ภายใต้ 2 โครงการดังนี้

1: โครงการ One for One : ก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์เท่าไหร่ ปลูกป่าเท่านั้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
2: โครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว : สร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมสร้างการมีส่วนร่วมในการสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อช่วยดูดซับคาร์บอน

 
 

โครงการปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว

ปลูกป่าทำได้ง่ายด้วยปลายนิ้ว จากแนวคิดนี้ สิงห์ เอสเตท ต้องการสื่อสารกับทุกกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ทุกคนเกิดความตระหนักรู้ว่าการแก้ไขปัญหาเรื่องโลกร้อนจริงๆ แล้วทำได้ง่ายมาก คุณไม่ต้องเดินทางไปปลูกป่าก็ได้ แค่คุณลดการปล่อยคาร์บอนในชีวิตประจำวัน โดยใช้แค่ปลายนิ้วของคุณ บางทีผลลัพธ์ในเรื่องของการดูดซับคาร์บอนมันอาจจะเท่ากับการที่ไปปลูกต้นไม้จริง 1 ต้น ในป่าใหญ่

กิจกรรมที่ผ่านมา

25 Aug 2022

Kick off แคมเปญ “ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว”

สิงห์ เอสเตท มุ่งสู่การเป็นองค์กร Carbon Neutrality 2030 จับมือพันธมิตร สิงห์ปาร์ค สยามคูโบต้าและไทยคม Kick off แคมเปญ “ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว” ตั้งเป้าสร้างพื้นที่ป่า 1 ล้าน ตร.ม. บริเวณป่าต้นน้ำจังหวัดเชียงราย

8 Jun 2022

กิจกรรมไอเดียการลดการปล่อยคาร์บอน

CHALLENGE BY ENVIRONMAN: ร่วมแชร์ไอเดีย ‘ลดการปล่อยคาร์บอนในชีวิตประจำวัน’ กับแคมเปญ ‘ปลูกป่าด้วยปลายนิ้ว’ โดยทุกๆ 1 ไอเดีย จะนำไปสู่การสนับสนุนปลูกป่า 1 ต้น

เป้าหมายของเรา

สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้ามุ่งสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 มุ่งสร้างพื้นที่ ป่าต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เท่ากับพื้นที่การก่อสร้างกว่า 1 ล้าน ตร.ม. เพื่อสร้างคุณค่าที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ตอบโจทย์แนวคิด Enriching Life สร้างคุณค่าให้ชีวิต

ไอเดีย "การลดการปล่อยคาร์บอน"

ใช้ถุงผ้า

ใช้ถุงพลาสติกให้น้อยลง

ถุงพลาสติกส่วนใหญ่มักจะถูกใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หากสามารถลดปริมาณการใช้ให้น้อยลง หรือใช้ซ้ำให้คุ้มค่าที่สุด ก็จะสามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้

ไม่ใช้สินค้าครั้งเดียวทิ้ง

เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมได้

การใช้สินค้าที่สามารถซื้อเติมได้เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดปริมาณการผลิตสินค้าที่เป็นบรรจุภัณฑ์หลักและทำให้การปล่อยคาร์บอนฯ มีปริมาณที่ลดน้อยลง

Recycle paper

เลิกใช้ Screensaver บนคอมพิวเตอร์ของคุณ

ใช้วิธีการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโหมด Sleep แทนการใช้สกรีนเซฟเวอร์ สามารถช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้ถึง 90 กิโลกรัมต่อปี

Recycle paper

ใช้กระดาษให้คุ้มค่า Recycle ให้ได้มากที่สุด

นำกระดาษที่ใช้งานแล้วกลับมาใช้งานใหม่ให้คุ้มค่าอาจจะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนฯได้ถึง 2.5 กิโลกรัมต่อกระดาษ 1 รีม

ตากเสื้อผ้า

ใช้แสงแดดให้เป็นประโยชน์

เราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปั่นผ้าแห้ง หากคุณใช้แสงแดด จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าประหยัดทั้งเงินและการปล่อยคาร์บอนฯ

ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ

ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ

ทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศสม่ำเสมอ โดยเฉพาะแผ่นกรองอากาศ จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้ถึง 80 กิโลกรัมต่อปี

ตากเสื้อผ้า

ใช้แสงจากธรรมชาติให้มากที่สุด

ออกแบบบ้านและตำแหน่งของช่องแสงธรรมชาติให้แสงสามารถส่องผ่านเข้าตัวบ้านได้มากที่สุดซึ่งจะช่วยลดพลังงานไฟฟ้าและการปล่อยคาร์บอนฯได้

ประหยัดน้ำ

ใช้น้ำประปาให้ประหยัด

ระบบการผลิตน้ำประปาต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการทำให้น้ำสะอาด การใช้น้ำอย่างคุ้มค่าก็จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฯได้อีกทางนึง

ขับรถให้พอดี

ขับรถระยะไกลด้วยความเร็วที่เหมาะสม

การขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดการใช้น้ำมัน 20% หรือ คิดเป็นปริมาณคาร์บอนฯ 1 ตันต่อรถยนต์ที่ใช้งานราว 30,000 กิโลเมตรต่อปี

Source:
http://reo13.mnre.go.th/th/news/detail/9326
https://www.deqp.go.th